🪥 สุขภาพช่องปากและฟันแย่ ฟันผุ ติดเชื้อ ฯลฯ วันหนึ่งอาจซวย เชื้อโรคทะลักเข้าเลือดไปเกาะลิ้นหัวใจ ติดเชื้อในที่สุด


เรียกภาวะนี้ว่า โรคติดเชื้อในห้องหัวใจ (Infective endocarditis: IE)


.


🦷 หลายคนไม่ค่อยทราบเรื่องนี้จริงๆ ค่ะว่า เชื้อจากปากไปถึงหัวใจได้จริงๆ คนไข้บางคนมาด้วยไข้เรื้อรัง หาที่มาไม่เจอ ตรวจสารพัด ถึงจะเจอว่ามีโคโลนีของเชื้อเกาะลิ้นหัวใจ ตรวจช่องปากคือมีติดเชื้อ คราบสารพัด


.


❓ มันไปได้ยังไง?


.


🦠 ในช่องปากของเราจะคล้ายกับในลำไส้ค่ะ คือมีระบบนิเวศของกลุ่มเชื้อจุลินทรีย์ อยู่กับเราแบบช่วยซึ่งกันและกัน


แต่เมื่อสุขภาพในช่องปากไม่ดี มีเศษอาหารติด มีคราบหินปูน-เชื้อโรคเกาะตามฟัน หรือมีปัญหาอื่นๆ ในช่องปาก มักจะมาด้วยการเหงือกอักเสบบ่อย เป็นๆ หายๆ


ซึ่งสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการอักเสบเรื้อรัง จะมีการเปลี่ยนแปลงชนิดแบคทีเรียในช่องปาก (Oral dysbiosis) นำไปสู่ชนิดที่อันตรายมากขึ้นค่ะ


เพิ่มความเสี่ยงที่เชื้อแบคทีเรียพวกนี้จะทะลวงผ่านจุดอักเสบเข้าสู่กระแสเลือดได้มากขึ้น ยิ่งคนที่มีการติดเชื้อลุกลามลึกเท่าไหร่ (Periodontitis) ยิ่งมีแบคทีเรียเข้ากระแสเลือดได้มากขึ้น


.


🩸 ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว แบคทีเรียเข้าเลือดจะชั่วคราวค่ะ (Transient bacteremia) แล้วโดนภูมิคุ้มกันกำจัดไปในที่สุด เพราะเรามีทั้งเม็ดเลือดขาวที่เก่ง และป้อมปราการที่คอยกำจัดเชื้อในเลือดอย่างตับและม้าม


แต่ถ้าคุณมีภูมิคุ้มกันไม่ดี เช่น เบาหวานที่ทำให้เม็ดเลือดขาวอัมพาต, ไตเสื่อมเรื้อรังที่สะสมของเสียขวางการทำงานภูมิคุ้มกัน แบคทีเรียก็จะอยู่นานขึ้น


.


🎲 คราวนี้ก็ลุ้นแล้วค่ะว่า

‘มีที่ให้มันเกาะยึดรึเปล่า’


.


🫀 หัวใจของเรา - เลือดทุกหยดต้องไหลผ่าน จึงไม่แปลกที่ถ้ามีแบคทีเรียในเลือด ก็ต้องผ่านหัวใจ แต่มันไม่เคยมีโอกาสได้เกาะได้เลย เพราะกระแสเลือดคือแรงมาก


ยกเว้นว่าคุณซวย… มี ‘แผล’ ให้มันเกาะ


.


💢 แผลนี้มักมาจาก เลือดมีการไหลแบบปั่นป่วน (Turbulent flow) ทำให้เกิดแรงเฉือนทางฟิสิกส์ ถูผนังหัวใจจนบาดเจ็บนิดๆ ซึ่งสามารถพบใน


✔️ คนปกติก็ได้ค่ะ โดยเฉพาะตรงรอยต่อของลิ้นกับเนื้อหัวใจ โดยซีกซ้ายจะเสี่ยงเป็นพิเศษเพราะความดันสูงมาก


✔️ ในคนที่มีโรคหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจ, ผนังหัวใจรั่ว ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เพราะเลือดจะไหลไปแบบปั่นป่วนผ่านจุดตีบจุดรั่ว


.


🩹 ผลจากการที่มีแผล แม้จะนิดขนาดไหนก็ตาม บรรดา ‘กาวไฟบริน’ จะพยายามมาปิดแผล โดยจะยึดเกล็ดเลือดแล้วสมานแผลเอาไว้


แต่นั่น ก็กลายเป็นกาวสำหรับเชื้อโรคที่กำลังท่องยุทธภพชั่วคราว มาใช้กาวส่วนที่เรียกว่า Pili - Adhesin ยึดเกาะได้


และเมื่อมันยึดเกาะได้เท่านั้นแหละ ถ้าภูมิคุ้มกันกำจัดมันไม่ได้ไวพอ


.


🔁 มันจะเริ่มแบ่งตัวเพิ่มจำนวนที่ผนังหัวใจนั้นเลย ซึ่งมักจะอยู่ที่ผิวของลิ้นหัวใจ ยิ่งแบ่งตัวเท่าไหร่ ยิ่งหนีจากภูมิได้ง่าย เพราะมันจะพยายามสร้างเกราะป้องกันเรียกว่า Biofilm มาปิดเอาไว้


และนั่นก็จะทำให้อาณาจักรเชื้อโรคกำเนิดขึ้นใหม่ ที่เกิดจากแบคทีเรียในช่องปากแท้ๆ มาตั้งรกราก แต่เนื่องจากอยู่ผิดที่ให้สร้างผลเสียให้มหาศาล


🎯 ภูมิคุ้มกันปะทะกับโคโลนีเชื้อตลอดเวลา ทำให้ผลิตสารก่ออักเสบสู่เลือด กลายเป็นไข้เรื้อรัง มักจะหาสาเหตุไม่เจอ


🎯 โคโลนีของเชื้อมีการหลุดออกไปเป็นพักๆ ไปอุดตามเส้นเลือดต่างๆ ทำให้เจอจ้ำเลือด หรือการเปลี่ยนแปลงตามอวัยวะอื่นๆ


🎯 บางคนซวย โคโลนีหลุดออกไปเยอะพอควร สุ่มกาชาไปสร้างอาณาจักรที่อวัยวะใหม่ อาจจะเป็นสมองก็ได้


🎯 บางคนอาจอักเสบรุนแรง จนส่งผลต่อการทำงานหัวใจโดยตรง


.

.


🔮 สรุป: ช่องปากแวดล้อมไม่ดี ติดเชื้อเรื้อรัง → แบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดชั่วคราว (ภูมิตกยิ่งอยู่นาน) → เชื้อเกาะผิวหัวใจที่เป็นแผลนิดๆ → แบ่งตัวติดเชื้อที่หัวใจ → ไข้เรื้อรัง + พร้อมกระจายไปที่ต่างๆ


.


🙋🏻‍♀️ แม้ภาวะนี้ในคนปกติที่ไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลย มีเพียงสุขภาพช่องปากแย่ จะเกิดไม่ได้ง่ายนัก แต่เราไม่รู้เลยว่าเราจะซวยมีแผลที่ผิวหัวใจเมื่อไหร่ แบคทีเรียจะอยู่นานมั้ย ดังนั้น


.


ดูแลสุขภาพช่องปากเสมอนะคะ อย่าปล่อยทิ้งไว้เลย


✅ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เน้นเอาเศษอาหารออกให้เกลี้ยง

✅ ถ้าเป็นไปได้ แปรงฟันแห้ง ได้ผลสุด คือแปรงแล้วไม่กลั้วน้ำซ้ำ เพราะมันจะทำให้ Fluoride เคลือบผิวฟันนานที่สุด ช่วยรักษาปราการสำคัญไม่ให้แบคทีเรียทะลวง

✅ ใช้ไหมขัดฟัน คอยเอาเศษเล็กๆ ที่ติดตามซอก ก็ยิ่งจะป้องกันได้มากขึ้น

✅ ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ

✅ มีเหงือกอักเสบ ไม่ว่าจะจากอะไรก็ตาม ไปตรวจหาสาเหตุ

✅ การกินของหวาน + ดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดี ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ ซีนที่เจอบ่อยคือ กินของหวานแล้วนอนเลย ไม่แปรงฟัน

Cr:Tensia