แพทย์รุ่นเก่า คิดว่าไส้ติ่งไม่มีประโยชน์เพราะ ตัดออกแล้วไม่เห็นผลเสียชัดเจน
แพทย์รุ่นเก่า คิดว่าไส้ติ่งไม่มีประโยชน์เพราะ ตัดออกแล้วไม่เห็นผลเสียชัดเจน + ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ลึกซึ้งพอ
นักวิทยาศาสตร์พบแล้วว่าไส้ติ่งมีประโยชน์จริง โดยทำหน้าที่เป็น แหล่งกักเก็บและฟื้นฟูแบคทีเรียดี และมีส่วนสำคัญใน ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำหน้าที่เป็น "safe house" สำหรับแบคทีเรียดี (gut microbiota) ของลำไส้ และมีบทบาทในระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนที่แพทย์รุ่นเก่าเคยคิดว่าไม่มีประโยชน์เพราะ ไม่รู้หน้าที่ที่แน่ชัด และการตัดออกก็ไม่ส่งผลเสียต่อการดำรงชีวิตที่เห็นได้ชัด
#สรุปประโยน์ มี 2 ด้านต่อไปนี้:
1. เป็น "ที่ปลอดภัย" หรือแหล่งเก็บรักษาแบคทีเรียดีในลำไส้ (Safe House for Gut Bacteria)
ลำไส้ของเรามีแบคทีเรียดีจำนวนมหาศาลที่ช่วยในการย่อยอาหาร สังเคราะห์วิตามิน และปกป้องเราจากเชื้อโรค
เมื่อเกิดโรคอย่าง โรคบิด หรือท้องเสียรุนแรง แบคทีเรียดีเหล่านี้จะถูกชะล้างออกจากลำไส้ไปมาก
ไส้ติ่งซึ่งมีโครงสร้างเป็นท่อตัน แคบ และอยู่ห่างจากทางผ่านหลักของลำไส้ จึงทำหน้าที่เหมือน " bunker" หรือที่หลบภัยที่ปลอดภัยสำหรับแบคทีเรียดีเหล่านี้
หลังจากอาการท้องเสียหายดีแล้ว แบคทีเรียดีจากไส้ติ่งก็จะออกมาปักหลักและฟื้นฟูสมดุลของลำไส้ใหญ่ได้รวดเร็วขึ้น
2. มีบทบาทในระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Function)
ไส้ติ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อที่มีชื่อว่า GALT (Gut-Associated Lymphoid Tissue) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อน้ำเหลืองที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้ม
มันทำหน้าที่เป็นจุดตรวจตรา (checkpoint) คอยฝึกและผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (lymphocytes) และสร้างแอนติบอดี (โดยเฉพาะ IgA) เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคที่พยายามบุกรุกผ่านทางเดินอาหาร
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไส้ติ่งช่วยในการ "สอน" ระบบภูมิคุ้มกันให้แยกแยะระหว่างเชื้อโรคกับแบคทีเรียดีและอาหาร
#แล้วทำไมแพทย์รุ่นเก่าจึงคิดว่าไส้ติ่งไม่มีประโยชน์?
แนวคิดที่ว่าไส้ติ่งเป็นอวัยวะที่ไร้ประโยชน์ (vestigial organ) นี้มีที่มาจากหลายเหตุผลในอดีต:
1. ไม่เห็นผลกระทบชัดเจนหลังตัดออก: เมื่อตัดไส้ติ่งออก (appendectomy) ผู้ป่วยก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีอาการขาดหรือผิดปกติใดๆ ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนในทันที สิ่งนี้ทำให้แพทย์ในอดีตสรุปว่ามันน่าจะไม่สำคัญ
2. เทคโนโลยีและความรู้ที่จำกัด: ในยุคก่อนยังไม่มีความรู้นะบบภูมิต้านทานที่ดีพอ และยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับ microbiome (ชุมชนของจุลินทรีย์ในร่างกาย) อย่างลึกซึ้งเหมือนปัจจุบัน บทบาทที่ซับซ้อนของไส้ติ่งจึงถูกมองข้ามไป
3. มองผ่านเลนส์วิวัฒนาการ: นักวิทยาศาสตร์ในอดีต เช่น ชาร์ลส์ ดาร์วิน เชื่อว่าไส้ติ่งเป็นอวัยวะที่ไร้ค่าแล้ว (vestigial) จากบรรพบุรุษที่ใช้ในการย่อยเซลลูโลสจากพืช (เช่น ในสัตว์กินพืช) แต่ในมนุษย์ที่อาหารเปลี่ยนไป มันจึงเหลือไว้เพียงร่องรอย โดยไม่มีหน้าที่ anymore ซึ่งทฤษฎีนี้ปัจจุบันถูกท้าทายแล้ว
4. โฟกัสที่โทษมากกว่าประโยชน์: ไส้ติ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากโรค "ไส้ติ่งอักเสบ" ซึ่งเป็นภาวะร้ายแรงที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ ความน่ารำคาญและอันตรายของมันทำให้คนมองข้ามประโยชน์ที่อาจมีไป
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของไส้ติ่งไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรตัดมันออกเมื่อจำเป็น การตัดไส้ติ่งออกเมื่อเกิดการอักเสบ (appendicitis) ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นและช่วยชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วน ร่างกายมนุษย์สามารถปรับตัวและอยู่ได้โดยไม่มีไส้ติ่งอย่างสมบูรณ์ เพราะระบบอื่นๆ สามารถชดเชยหน้าที่ที่สูญเสียไปได้ แม้ไม่สมบูรณ์ก็ตาม
ลอย ชุนพงษ์ทอง เรียบเรียง 24 สิงหาคม 2025