ออกกำลังกาย ปรับแวดล้อมในลำไส้

ลดโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้เกือบ 40%


.


🌱 มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal cancer, CRC) เป็นมะเร็งที่พบบ่อย เพราะลำไส้ต้องเผชิญทั้งกากอาหารและการอยู่ร่วมกับจุลินทรีย์ตลอดเวลา จึงไวต่อวิถีชีวิตมาก


_______________


🔬 กำเนิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Vogelstein model)


มะเร็งไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดครั้งเดียวนะคะ

แต่จาก “การสะสมความเสียหายของ DNA” ซ้ำไปซ้ำมา


นี่คือรายชื่อ ‘โปรตีน’ ที่สร้างผิดปกติจาก DNA เสียหายค่ะ


1️⃣ APC คอยเบรกเซลล์

❌ เสีย → เซลล์แบ่งเร็วผิดปกติ → ก้อนเล็ก (adenoma)


2️⃣ KRAS เป็นสวิตช์สั่งแบ่ง ต้องมีคนสั่ง

❌ เสีย → เปิดเองตลอด → โตไวและแรงขึ้น


3️⃣ DCC คือปุ่มฆ่ๅเซลล์ผิดปกติ

❌ เสีย → ไม่มีใครสั่งหยุด → เซลล์รอดแม้ผิดปกติ


4️⃣ p53 คือไม้ตๅยสุดท้ายไว้หยุดแบ่งเซลล์

❌ เสีย → ไม่มีใครควบคุม → หลุดเป็นมะเร็ง


✨ รวมแล้ว = เบรกพัง + คันเร่งค้าง + ไม่มีใครฆ่าตัวเอง + ไม้ตๅยหาย → เซลล์ดุร้ายจนเป็นมะเร็ง


___________


[ ⚠️ ปัจจัยเสี่ยง]


➊👵 อายุมากกว่า 50 - ระบบภูมิคุ้มกันที่คอยตรวจตรามะเร็งจะทำงานน้อยลง


➋⚖️ อ้วน - เซลล์ไขมันเบียดกันจนเครียด ปล่อยสารก่ออักเสบตลอดเวลา ซึ่งลำไส้ใหญ่ก็โดนไปด้วย


➌🥦 กินไฟเบอร์น้อย - ไฟเบอร์คอยรักษาแบคทีเรียตัวดีๆ เอาไว้ พอกินน้อย แบคทีเรียตัวที่สร้างสารก่ออักเสบจะยึดครอง ทำร้ายผิวลำไส้ตลอด


➍💉 ภาวะดื้ออินซูลิน - เมื่อตับและกล้ามเนื้อเริ่มไม่ฟังอินซูลิน ตับอ่อนจึงพยายามหลั่งอินซูลินเพิ่มขึ้น จนมาระดมสั่งให้ลำไส้ใหญ่สร้างสารเร่งโต (IGF-1) มากขึ้น กระตุ้นตัวเองให้แบ่งตัวไวขึ้นมาก


➎🍷 สุรา - แอลกอฮอล์เผาผลาญที่ตับก็จริง แต่มันสร้างพิษชื่อ acetaldehyde ไหลไปทั่ว รวมถึงลำไส้ใหญ่ด้วย แถมยังทำให้แบคทีเรียเปลี่ยนเป็นชนิดไม่ดีอีก


___________


[ 🏃‍♀️ ทำไม “การออกกำลังกาย” ช่วยได้? ]


➊🧩 กล้ามเนื้อระดมหลั่งฮอร์โมน โดยเฉพาะกลุ่ม IL-6, IL-15 ดึงดูดให้เม็ดเลือดขาว Treg มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งทำหน้าที่ต้านอักเสบ ลดความเสียหายต่อลำไส้


➋🔥 เร่งการเผาผลาญไขมัน เซลล์ไขมันแฟ่บลง หายจาก stress จึงลดการหลั่งสารก่ออักเสบลง ลำไส้รอดจากการทำร้าย


➌💪 กล้ามเนื้อหลั่งสารมากมาย ที่ทำให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ทำให้ตับอ่อนไม่ต้องหลั่งอินซูลินมากขึ้นอีกต่อไป ลำไส้จึงไม่โดนกระตุ้นให้แบ่งตัวจาก IGF-1


➍⛔ จุดสำคัญคือ แม้จะเริ่มเป็นมะเร็งแล้ว ยังช่วยลดการสร้างไม้ตๅยสำคัญของมะเร็งคือ HIF-1a ที่ทำให้มะเร็งดุร้ายขึ้น


✨ จุดสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงทั้ง 4 ข้อ ไม่ได้เกิดแล้วจบไป แต่มีการเปลี่ยนแปลงถาวรในระดับยีนเลยค่ะ (Epigenetic - miRNA)


___________


[ ออกเท่าไหร่จึงจะได้ผล ]


✅ ระดับปานกลางขึ้นไป (เริ่มหอบเหนื่อย)

✅ ยิ่งหนักยิ่งดี แต่ต้องค่อยๆ เพิ่มและวอร์มอัป

✅ 150–300 นาที/สัปดาห์ แบบแอโรบิก

✅ เสริมแรงด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อสร้างผลได้แรงขึ้น



🎯 สรุป


ออกกำลังกายไม่ใช่แค่ป้องกันอ้วน แต่ปรับทั้งภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน และยีน → ลดโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้จริง


✨ ทุกครั้งที่คุณลุกไปออกกำลัง = กดปุ่ม “ลดความเสี่ยงมะเร็ง” ให้ตัวเองค่ะ


Cr:Tensia