หวั่นเหยื่อร.ร.ถล่ม – รอยเตอร์ รายงานวันที่ 3 ต.ค. ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอาคารเรียนศาสนาของ โรงเรียนประจำอัลโคซินี พังถล่มในเมืองซิโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่เย็นวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันเพิ่มเป็นอย่างน้อย 5 ราย และมีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 30 รายขณะที่หน่วยกู้ภัยยังเร่งค้นหานักเรียนชายเกือบ 60 คนที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชายอายุ 13-19 ปี ท่ามกลางความหวังที่ริบหรี่ลงหลังเจ้าหน้าที่ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ต.ค. ว่าไม่พบสัญญาณชีพภายหลังขุดอุโมงค์เข้าไปในซากอาคาร รวมถึงพยายามเรียกชื่อเด็กๆ และใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว


รายงานระบุด้วยว่ารถพยาบาลกว่า 10 คันจอดเรียงรายใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อรอช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ส่วนการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าการต่อเติมซึ่งไม่ได้รับอนุญาตทำให้โครงสร้างฐานรากของอาคารไม่สามารถรองรับการก่อสร้างเพิ่มชั้น 3 และ 4 ได้จึงพังถล่มลงมาขณะเดียวกันกลุ่มผู้ปกครองที่ปักหลักรอความเคลื่อนไหวอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนเรียกร้องขอคำตอบจากฝ่ายผู้บริหาร “ทางโรงเรียนไม่ได้ขอโทษและพวกเขายังโทษอีกฝ่ายด้วยซ้ำ” นางจายันติ มันดาซารี กล่าวระหว่างเฝ้ารอข่าวคราวของ นายมูฮัมหมัด มูฟี อัลเฟียน ลูกชายวัย 16 ปีอย่างใจจดใจจ่อ


และว่าเคยประท้วงการต่อเติมอาคารเรียนซึ่งดูไม่แข็งแรงมั่นคงแต่ทางโรงเรียนกลับไม่เคยให้คำตอบหรือรับฟังความเห็นของผู้ปกครอง อีกหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมนักเรียนจึงได้รับอนุญาตให้พิธีละหมาดบนชั้นหนึ่งในขณะที่การก่อสร้างชั้น 3 และชั้น 4 กำลังดำเนินอยู่