อดีต มทภ.2 ก่อตั้ง "มูลนิธิแม่ทัพกุ้ง" ช่วยครอบครัวทหาร "บิ๊กเล็ก" ลั่นยังไม่จบทวงคืนพื้นที่ตาควาย
“บิ๊กเล็ก” กร้าวไม่ได้ปราสาท ตาควายคืนไม่จบ-ไม่ยอม ซัดเขมรใช้โบราณสถานตั้งฐานที่มั่นทหารทำผิดอนุสัญญาออตตาวา-เจนีวา ชี้อะไรที่เป็นเขตแผ่นดินไทยต้องเอาคืนมาให้หมด เข้าใจอินฟลูฯรักชาติ ส่วนเรื่องเปิดด่านชีวิตนี้ไม่ขอคุยเรื่องนี้จนกว่าทุกอย่างจะเคลียร์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยัน “ปราสาทตาควาย” เป็นของไทย เตรียมเปิด “มูลนิธิแม่ทัพกุ้ง” ช่วยเหลือดูแลครอบครัวทหาร และช่วยเหลือสาธารณประโยชน์ ชาวบ้านดีใจปราสาทสด๊กก๊อกธมกลับมาเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ระบุเหมือนคืนชีวิตให้ชุมชน ช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่สระแก้ว

ความคืบหน้าสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลัง 2 ฝ่าย มีการทำข้อตกลงสันติภาพและมีการถอนอาวุธ หนักในเฟสแรก เพื่อคืนความสงบสุขให้ประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายก รัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ถึงการวางกรอบเวลาประเมินเงื่อนไข 4 ข้อ ที่ให้ไว้กับกัมพูชา ว่า ทำทุกวัน ความคืบหน้า จาก 2 ฐานยิง ตอนนี้เป็น 40 กว่าฐานยิง ที่ย้ายออก ไปแล้ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ของไม่ใช่ว่าอยากย้ายแล้วย้ายได้ทันที ปล่อยให้กองทัพดำเนินการไม่ใช่ไม่มีอะไรคืบหน้า เมื่อถามว่า หลังลงนามปฏิญญาสันติภาพ มีทิศทางที่ดีขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า สิ่งที่ 2 ฝ่าย ต้องปฏิบัติเรื่องเงื่อนไขวิธีการดำเนินงาน ทั้งหลายเริ่มมาตั้งแต่ข้อตกลง JBC GBC อยู่แล้ว ผู้ปฏิบัติคือกองทัพเขารับทราบขั้นตอน
เมื่อถามเรื่องความคืบหน้าการพิจารณายกเลิกเอ็มโอยู 43-44 ว่า ถึงไหน นายอนุทินกล่าวว่า ให้ถาม นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ประสานงานกับคณะกรรมาธิการในสภา เมื่อถามว่า ได้รับรายงานกรณีมีหญิงไทยเสียชีวิตที่กัมพูชาหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า เดี๋ยวขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าแล้วจะไป อ่านรายงานและรีบดำเนินการ เมื่อถามว่า ได้กำชับไปยัง ตำรวจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า กำชับทุกวัน
ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเสร็จจากการประชุม ครม. ถึงกรณีคนไทยเป็นห่วงเรื่อง “ปราสาทตาควาย” โดยยืนยันปราสาทตาควายยังเป็นของไทย ขณะนี้กำลังหารือถึงการปล่อยเชลยศึก 18 คน ถ้าไม่ สามารถเคลียร์ปราสาทตาควายได้ จะไม่คุยเรื่องอื่น อีกต่อไปและจะไม่มีการคุยกันอีก ได้พูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาไปแล้วว่า ทำผิดอนุสัญญาเจนีวา ใช้โบราณ สถานเป็นฐานที่มั่นทางทหาร รวมไปถึงการวางทุ่น ระเบิดสังหารบุคคลล้อมรอบปราสาทที่ผิดอนุสัญญาออตตาวา ไทยไม่ยอมรับว่าเขายึดได้
เมื่อถามว่า จะนำเชลยศึกไปต่อรองกับปราสาทตาควายหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลตอบว่า ไม่ พราะยังมี มาตรการอื่นๆ เช่น การเปิดด่าน ยังไม่มีการคุยอย่าง แน่นอน ถ้ายังไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนคำประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่ลงนาม กัมพูชาจะต้อง ยึดหลัก 4 ข้อ รวมถึงกรณีปราสาทตาควาย เมื่อถามว่า กัมพูชายอมถอนกำลังออกจากปราสาทตาควาย จึงมี การพูดคุยใช่หรือไม่ รมว.กลาโหม ตอบว่า ยังไม่หมด ต้องเคลียร์หมดทุกเรื่องให้กลับสู่สภาพปกติ ปราสาทตาควายได้ยืนยันกับกัมพูชาแล้วว่าไม่จบแน่นอน อะไรที่เป็นเขตแผ่นดินไทย ต้องเอาคืนมาให้หมด
ส่วนที่มีกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์จะรวมตัวจัดกิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควาย รมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือ เพราะในพื้นที่ยังมีทุ่น ระเบิด บอกกองทัพไปแล้วว่า ต้องไม่มีมวลชนในพื้นที่ เข้าไปแล้วได้รับอันตรายกลับมา เมื่อถามว่า ประชาชนในพื้นที่เข้าใจว่าไทยเสียปราสาทตาควายไปแล้วและไม่พอใจรัฐบาลอย่างมาก จะชี้แจงกับประชาชนอย่างไร พล.อ.ณัฐพลยืนยันหนักแน่นว่ากองทัพจะไม่ยอม ไม่จบแน่นอน ถ้ายังไม่ได้ปราสาทตาควายคืน
เมื่อถามอีกว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนใหม่หรือไม่ เนื่องจากโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงยอมรับว่า เสียปราสาทตาควายตั้งแต่คืนวันที่ 28 ก.ค. และไม่สามารถไปยิง เพื่อยึดคืนได้ ต้องใช้กล ไกเจรจา พล.อ.ณัฐพลตอบว่า ปราสาทตาควายกัมพูชาทำผิดอนุสัญญาเจนีวา ต้องต่อสู้ทางกฎหมาย ขอความร่วมมือและความเห็นใจจากสื่อมวลชนและประชาชน ขอทำให้จบทีละเรื่อง ขณะนี้เคลียร์เรื่องอาวุธหนัก เรื่องทุ่นระเบิด ออกก่อนภายในวันที่ 17 พ.ย. หลังจากนั้นใช้เวลาอีก 1 เดือน สำรวจหมุดชั่วคราว ส่วนการเปิดด่านไม่มี แน่นอน ใครจะเปิดด่านก็ไม่ต้องมาคุยกับตนชีวิตนี้ ตนไม่คุยแน่นอนเรื่องเปิดด่าน
ที่กองทัพภาคที่ 2 พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (TMAC) ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำ เนินงาน ปัญหาข้อขัดข้องและแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภารกิจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการเพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่มั่นคงและปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน กองทัพภาคที่ 2 ได้เร่งขับเคลื่อนภารกิจด้านมนุษยธรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการสำรวจ เก็บกู้ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิด เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ประโยชน์ได้โดยเร็วที่สุด เน้นย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่น จริงจัง ต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกมิติ คำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนเป็นสำคัญ ภารกิจด้านทุ่นระเบิด คือภารกิจสำคัญของการสร้างความมั่นคง ความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ชายแดน ขอให้ผู้ปฏิบัติภารกิจทุกนายระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน
วันเดียวกัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นการบรรยายพิเศษที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ในหัวข้อ “เยาวชนไทยร่วมใจรักชาติ รักแผ่นดินและปลูกจิตสำนึก ด้านคุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส เพื่อความมั่นคงของชาติ” ถึงเรื่องการจัดตั้งมูลนิธิ ว่า จะใช้ชื่อ “มูลนิธิแม่ทัพกุ้ง” ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขอจดทะเบียน วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ เพื่อต้องการช่วยเหลือทหารทั่วประเทศ อาทิ ทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบ จัดทุนการศึกษาให้แก่บุตรหลานทหารและยังมีจุดประสงค์จะช่วยเหลือด้านสาธารณประโยชน์ต่างๆ อาทิ ประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเป็นศูนย์รวมการช่วยเหลือตามกำลังที่จะสามารถช่วยได้ งบประมาณการจัดตั้งมูลนิธิฯ จะมาจากคนใกล้ชิดของครอบครัวทหารและผู้อื่นที่มีความประสงค์อยากร่วมด้วยช่วยกัน และทุกอย่างต้องทำให้ชัดเจน โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ตามกระบวนการกฎหมาย นอกจากนี้แม่ทัพกุ้งยังกล่าวถึงประเด็นการทวงคืนปราสาทตาควาย โดยกล่าวยืนยันว่าเป็นของไทย
ส่วนสถานการณ์ที่ จ.สระแก้ว วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพาจัดกำลังออกปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนทางอากาศ ใช้โดรนบินสำรวจพื้นที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ติดตามความเคลื่อนไหว ประเมินสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ช่วงเช้ายังไม่พบทหารกัมพูชาออกมายืนบันทึกภาพหรือรายงานสถานการณ์ฝั่งไทยเหมือนเช่นที่ผ่านมา ส่วนหมู่บ้านกัมพูชาที่อยู่ตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน ไม่พบการเคลื่อน ไหวหรือการรวมตัวของมวลชนแต่อย่างใด ขณะที่ทหารกองกำลังบูรพาเฝ้าระวังพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่บรรยากาศภายในสำนักปฏิบัติธรรมปราสาทสด๊กก๊อกธม บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง เต็มไปด้วยความคึกคัก หลังมีการจัดงานทอดกฐินประจำปีของชาวบ้าน พร้อมพิธีบวงสรวงใหญ่โดยเหล่าครูบาอาจารย์สายธรรมจากทั่วประเทศ ประกอบพิธีเบิกพระฤกษ์สร้าง “พระแม่โสมา” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเชื่อว่าจะช่วยให้พื้นที่เจริญรุ่งเรืองและเกิดความสงบสุขในประเทศ
ชาวบ้านหนองหญ้าแก้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ดีใจอย่างมากที่อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธมกลับมาเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อวันที่ 30 ต.ค. หลังต้องปิดไปช่วงหนึ่งเพราะสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่นี่เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านมาขอพรแล้วได้สมปรารถนา พร้อมยืนยันว่าปราสาทสด๊กก๊อกธมเป็นของไทยแน่นอน เพราะตั้งอยู่ห่างจากแนวชายแดนมากและไม่เคยได้ยินว่าฝั่งกัมพูชามาเคลมพื้นที่นี้แต่อย่างใด การกลับมาเปิดครั้งนี้ทำให้มีความสุขมากเหมือนได้คืนชีวิตให้ชุมชนอีกครั้ง และยังช่วยฟื้นฟูบรรยากาศการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนสระแก้วให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ด้านนางจันทร์หอม บุญเลิศ อายุ 59 ปี มารดา พ.ต.นพพล บุญเลิศ “วีรบุรุษตาควาย” กล่าวว่า หลังมีข่าวว่าปราสาทตาควาย ปัจจุบันเป็นพื้นที่ของกัมพูชาครอบครอง รู้สึกเสียใจเพราะเกรงว่าที่ลูกชายรบมาจะสูญเปล่า ที่สู้มา เพื่อแผ่นดินเพื่อชาติ หลังเกิดเหตุได้ขึ้นไปที่ปราสาทตาควายเพียงครั้งเดียว ไปอัญเชิญวิญญาณลูกชายกลับบ้าน ระหว่างเชิญวิญญาณได้เก็บดินตรงจุดเกิดเหตุ จุดที่สูญเสียลูกชายจึงเก็บเอามาไว้เป็นเครื่องเตือนใจ และจะทำบุญครบ 100 วัน การจากไปของลูกชาย ในวันที่ 7 พ.ย.